วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

บุคคลสำคัญในเอเชีย

คิม อิล-ซ็อง ผู้นำคนแรกของเกาหลีเหนือ


คิม อิล-ซ็อง
ประวัติ
คิม อิล-ซ็อง (เกาหลี: 김일성, ฮันจา: 金日成, MC: Kim Il-sŏng, MR: Gim Il-seong, 15เมษายน พ.ศ. 2455 - 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2537) นักการเมืองชาวเกาหลีเหนือ ผู้นำคนแรกของเกาหลีเหนือ ตั้งแต่ก่อตั้งประเทศเมื่อ พ.ศ. 2492 จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. 2537 โดยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ พ.ศ. 2491 ถึง พ.ศ. 2515 และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ พ.ศ. 2515 จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 82 ปี
ผู้ก่อตั้ง              สาธารนรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
พรรคการเมือง      พรรคแรงงาน เกาหลีเหนือ
คู่สมรส              คิม จองซุก  คิม ซองแอ
บุตร                   คิม จองอิล , คิม มันอิล ,  คิม คยองฮุย , คิม คยองจิน , คิม ปยองอิล , คิม ยองอิล
ศาสนา              อเทวนิยม

           หลังจากคิม  อิล-ซ็อง ถึงแก่อสัญกรรม บุตรชายคนโตคือ คิม จองอิล ได้สืบทอดตำแหน่งผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือมาจนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2554 และได้ยกตำแหน่งให้คิม อิล-ซ็อง เป็น "ประธานาธิบดีตลอดกาล" (eternal president) ของเกาหลีเหนือ


ประเทศนี้เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่แปลก คือมีการสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีจากพ่อสู่ลูก (และคาดว่า เมื่อสิ้น คิมจองอิล แล้วตำแหน่งก็จะตกอยู่กับลูกของเขาต่อไป) คิม อิล ซ็อง เริ่มต่อสู้กับจักวรรดิญี่ปุ่นตั้งแต่ อายุ 15 อายุ 28 เข้าร่วมกองทัพโซเวียตและได้ยศพันตรี หลังสงคราม ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ แห่งท่าน โจเซฟ สตาลิน เขาจึงได้เป็นใหญ่ในเกาหลีเมื่ออายุ 36 ปี

การเปรียบเทียบการปกครอง จากรุ่นพ่อกับรุ่นลูก  (คิมจองอิล)

           การปครองคิมจองอิลเลวร้ายกว่า คิมอิลซ็อง แนวนโยบายที่ใช้บริหารประเทศคือ จูเช่ ถูกปรับให้กลายเป็นความปิดกั้นความคิดความรู้ของประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกับที่ชนชั้นปกครองของเกาหลีเหนือ แสวงสุขอย่างไม่สนใจว่าประชาชนมีสภาพอย่างไร ประเทศนี้เป็นประเทศขอทานระดับโลกไปแล้ว แต่ที่แย่กว่าคือ   การคอยถือปืนข่มขู่ชาวโลก โดยอาศัยมนุษยธรรมและความเดือดร้อนของประชาชน เป็นเครื่องต่อรอง


          แต่อย่างไรก็ตาม สมัย คิม อิล-ซ็อง เป็นผู้นำเกาหลีเหนือ มีโครงการเพื่อพัฒนาประชาชนหลายอย่าง และมีการพัฒนาอุตสาหกรรมหนักจำนวนมาก   ซึ่งอุตสาหกรรมเกาหลีเหนือนี้ อยู่ระดับแนวหน้าของโลก (เพราะได้เทคโนโลยีจากสหภาพโซเวียต)


ประธานาธิบดี ทั้งสองพ่อลูกต่างก็มีนนโยบายปกครองประเทศแนวลัทธิสตาลินเหมือนกัน แต่ระดับความเผด็จการต้องยกให้คนลูก เพราะบริหารประเทศผิดพลาด จนผู้คนต้องอดอยากล้มตายไปเป็นจำนวนมาก คนที่ขัดขืนก็ถูกเก็บ บางส่วนต้องดิ้นรนหาทางอพยพไปที่อื่น (โดยหลบหนีข้ามแม่น้ำ ยาลู่เจียง/ ข้ามพรมแดนจีน) และเดินรอนแรมจนเข้าสู่ สปป. ลาว ข้ามแม่น้ำโขงเข้าราชอาณาจักรไทย และขอหลี้ลัยตามสถานฑูตเกาหลีใกล้บ้าน











                                                  ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

                                                วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี



















































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น